เป็นประจำทุกๆปีที่ช่วงปิดภาคเรียนที่ 1
จะตรงกับฤดูเก็บเกี่ยวข้าวที่บ้านดอย ผมจึงใช้เวลาในช่วงนี้
กลับบ้านไปช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำงานที่ไร่ตามวิถีชีวิตของปกาญอ
ภาพนี้ผมกำลังตีข้าวกับคุณแม่ครับ
ภายใต้แสงอาทิตย์ที่ร้อนระอุ แต่แฝงไปด้วย
ความอบอุ่นที่ผมคุณพ่อคุณแม่และน้องๆได้ทำงานด้วยกัน
หลังจากตีข้าวก็จะเป็นการพัดเมล็ดข้าวที่ลีบออกไป
พร้อมเศษใบข้าวที่ปะปนมาด้วย เพื่อให้ได้เมล็ดข้าวที่
สามารถนำไปตำให้เป็นข้าวสารได้จริงๆ
อาหารกลางวันที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าอาหาร
ผักสด น้ำพริก ผักลวก แสนอร่อย
การเกี่ยวข้าวไร่แตกต่างกับการเกี่ยวข้าวในท้องนาคือ
ข้าวไร่ เกี่ยวแล้วเอาใบมาพันกับรวงข้าวเป็นมัดๆแล้วตากให้แห้ง
ข้าวนา เกี่ยวแล้ววางไว้จนแห้ง แล้วเอาตอกมามัดอีกครั้งเพื่อไปตี
ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพรที่อุดมไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า
ทุกชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างเกื้อกูล
น้องชายคนรอง (น้องแดน)
ภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปี 2
น้องชายคนเล็ก (น้องจอนห์)
มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านซิวาเดอ
ไม่กี่วันกับการทำงานกลางแดด
แต่คุณพ่อและคุณแม่ทำมันตลอดทั้งปี
คุณพ่อผมกำลังทำพิธีผูกข้อมือและให้พร
ท่ามกลางข้าวไร่ ทำให้นึกถึงภาพตอนเด็กๆ
ที่ไปวิ่งเล่นไล่จับตั๊กแตนมาทำน้ำพริกกินกับข้าว
ในกระท่อมหลังเล็กๆที่เอาไว้พักร้อน
ในช่วงพักเที่ยง
น้องจอนห์ น้องชายคนเล็กกับวิวสวยๆบนภูเขา
ในปีหน้าน้องชายก็จะโบยบินออกสู่โลกกว้างอีก 1 คน
ในเส้นทางการศึกษา ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 ในเมืองที่ใหญ่ขึ้น
เพื่อเดินตามรอยพี่ชายทั้ง 2 คน ที่เคยผ่านจุดนี้มาแล้ว
ขอความมุ่งมั่นและเข้มแข็งจงเกิดแด่น้องชาย
เพื่อเดินตามความฝันของตนเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น