วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เริ่มต้นที่ความเชื่อ


หากจะกล่าวถึงสิ่งที่มีพลังในการขับเคลื่อนโลกใบนี้ สิ่งแรกที่เราจิตนาการถึงคงหนีไม่พ้นความทันสมัยทางด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี สิ่งก่อสร้าง เครื่องไม้เครื่องมือประเภทต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน เทียบได้ว่าเป็นสิ่งที่ผลิกโฉมหน้าของโลกใบนี้เลยก็ว่าได้ ทุกสิ่งอย่างที่กล่าวถึงนี้ล้วนแต่เกิดจากความคิดของมนุษย์ทั้งสิ้น และทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็นการคิดนอกกรอบ คิดแบบใหม่ จึงได้สร้างสรรค์นวัติกรรมใหม่ๆออกมา แน่นอนว่าคงมีน้อยคนที่ลงมือทำอะไรแล้วสำเร็จได้ทันที ส่วนใหญ่แล้วมีการลองผิดลองถูก ล้มมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง คำถามต่อมาคือ อะไรเป็นตัวคงความตั้งใจของพวกเขาไว้ละ ??   ทำไมเขาถึงไม่ล้มเลิกความตั้งใจ คำตอบง่ายๆคือ ความเชื่อ เพราะว่าเขายังเชื่อว่าเขาทำได้ ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้ง ไม่ว่าจะล้มเหลวกี่ครั้งก็จะไม่ล้มเลิกในความตั้งใจ ด้วยพลังแห่งความเชื่อนี้แหละที่ทำให้โลกใบนี้เปลี่ยนแปลงไป ความเชื่อเท่านั้นที่จะพาคุณไปสู่สิ่งใหม่ๆ การใช้ชีวิตที่ปราศจากความเชื่อคงไม่ต่างอะไรกับตอไม้ที่รอวันผุพัง เพราะการล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมดา แต่การล้มเลิกนี่สิ เป็นกำแพงที่คอยกั้นเราไปสู่ความสำเร็จ ฉะนั้นวันนี้เราลองถามตัวเองหรือยังว่า เราเชื่ออะไรบ้าง แล้วเราทำมันได้แล้วหรือยัง และเรายังเชื่อในอะไรอีกบ้าง?????

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เปิดกล่องชอร์ก ปีที่ 12


กลายเป็นงานการแลกเปลี่ยนทักษะทางวิชาการไปแล้ว สำหรับงานเปิดกล่องชอร์กของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำหรับปีนี้ได้เดินทางมาถึงปีที่ 12 แล้ว ที่ทางสโมสรนักศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ ได้ดำเนินโครงการนี้ ซึ่งแต่ละสาขาวิชาก็จะออกแบบกิจกรรมการแข่งขันทักษะทางวิชาการแล้วเปิดรับสมัครนักเรียนเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน มีการมอบเกียรติบัตรและโล่รางวัลในทักษะประเภทต่างๆ สำหรับปีนี้ในฐานะเป็นนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูก็ได้พานักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันด้วย การแข่งขันทักษะในด้านสังคมฯ มีหลายรายการ เช่น ตอบปัญหาสังคมศึกษา แฟนพันธุ์แท้ประวัติศาสตร์ แฟนพันธุ์แท้อาเซียน ได้พานักเรียนเข้ามาร่วมทุกรายการเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในด้านวิชาการ จากการแข่งขันมีรายการที่ได้รับรางวัลคือ การแข่งขันนำเสนอประเด็นโลกศึกษา (Global Education) : ซึ่งมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ร่วมนำเสนอ 3 คนคือ นางสาวสุรีย์ นางสาวฤทันรัตน์ และนางสาวป่ากู้ โดยนำเสนอในประเด็น การสอนศาสนาในระบบการศึกษาไทย นำไปสู่การสร้างสันติภาพจริงหรือ??  เป็นการนำเสนอแนวคิดในด้านการวิพากษ์แบบเรียน ที่เกิดจากการสังเกต และตั้งข้อสงสัย งานนี้ชนะใจกรรมการไปจึงได้รางวัลที่สองมาครอง.


มุมสวยๆในคณะศึกษาศาสตร์มีให้ถ่ายรูปเยอะเลย โดยเฉพาะมัมนี้ ที่มีโคมลอยอยู่เหนือศีรษะ และเหมือนแสงก็เป็นใจด้วยเลยจัดให้ลูกศิษย์ 1 ภาพแจ่มๆ ทีมนำเสนอประเด็นโลกศึกษา กับทีมตอบปัญหาสังคมศึกษา ประเสริฐ และอัครพล


สี่คนร่วมกิจกรรมตอบปัญหาสังคมศึกษาประกอบด้วย ประเสริฐ อัครพล เพ็ญนภาและอุษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ 


ผู้ร่วมแข่งขันแฟนพันธุ์แท้ประวัติศาสตร์ไทยประกอบด้วย รุ้งตะวัน อารีรัตน์ การเกด และจุฬารัตน์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่


ช่วงเที่ยงพักเบรคระหว่างรอการประกาศผลการแข่งขัน ณ สแตนด์แดง คณะศึกษาศาสตร์ อัฒจรรย์ที่ใช้สำหรับการโชว์เชียร์ การซ้อมกิจกรรมเชียร์ 


ก่อนเดินทางกลับโรงเรียนร่วมถ่ายรูปด้วยกันสักภาพ ขอบคุณพี่หน่อย สุวรรณา เมืองแก้ว ที่เป็นช่างภาพให้ สิ่งที่พวกเราได้มากกว่ารางวัลนั่นก็คือ ประสบการณ์การเรียนรู้ ได้มาเปิดหูเปิดตา เรียนรู้แลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆต่างโรงเรียน ผมจึงบอกกับลูกศิษย์ว่า ครูไม่ได้คัดเลือกพวกเราจากเกรด  ไม่ได้คัดเลือกว่าเก่งวิชาสังคม ไม่ได้คัดเลือกเพื่อมาสร้างชื่อเสียง แต่ครูดีใจที่พวกเธออาสามาด้วยตนเอง ด้วยความอยากรู้ อยากเห็น อยากร่วมกิจกรรม เพราะการเรียนรู้ที่ทรงพลังเอามากๆคือ การเรียนรู้ที่เกิดจากความอยากของผู้เรียนเอง ขอให้เก็บความทรงจำนี้ไว้ว่าวันหนึ่ง ครูนพ ได้บอกไว้อย่างนี้.ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ เราอย่าดูถูกความสามารถของตัวเอง อะไรที่เรายังไม่ได้ลงมือทำด้วยตนเอง อย่าบอกว่าเราทำไม่ได้. ขอให้นักเรียนเก็บความทรงจำวันนี้ไว้แล้วเปลี่ยนมันเป็นแรงขับภายในที่ช่วยกระตุ้นให้พวกเรากระหายที่จะเรียนรู้เพื่อยกระดับสติปัญญาของตนเอง และพร้อมที่จะแบ่งปันให้กับสังคมต่อไปในอนาคต

วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Impression at royal project.


มีโอกาสพาลูกศิษย์เข้าร่วมโครงการตามรอยพระบาทเพื่อเรียนรู้งานโครงการหลวง วันที่ 6-8 พ.ย.57 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ และศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างแกนนำนักเรียนในการนำความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการหลวงไปเผยแพร่ต่อในโรงเรียนและชุมชน งานนี้จัดโดยส่วนงานการศึกษาและสาธารณสุข มูลนิธิโครงการหลวง 


หนึ่งในกิจกรรมของการอบรมในวันแรกคือ ไปเยี่ยมชมอุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่แห่งนี้ได้เปิดให้เข้าเยี่ยมได้ตลอดปี รองรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดปี มีบริการที่พักและยานพาหนะในการเที่ยวชมสวนด้วย  ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.royalparkrajapruek.org/main/


สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ หนึ่งในโครงการหลวงที่เป็นแหล่งเรียนรู้การทำเกษตรประเภทต่างๆ ซึ่งมีการเพาะพันธุ์กล้าไม้หลายร้อบชนิด เพื่อให้เกษตรกรได้เรียนรู้ แล้วนำไปประกอบอาชีพ หนึ่งในพืชที่มีความสวยงามคือ กล้วยไม้ ณ สถานีนี้มีบริการที่พักและอาหารอย่างครบวงจร ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.royal-inthanon.com/


ภาพแรกกับการเดินทางขึ้นไปดอยอินทนนท์ ยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย มองลงมาด้านล่างแล้วเห็นเมฆ หมอกปกคลุมเมืองเชียงใหม่ ช่างเป็นภาพที่สวยงามนัก


บนยอดดอยอินทนนท์ เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง 2,565 เมตร มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียว นี่แหละความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้บนพื้นที่สูง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่ประมาณ 482.4 ตารางกิโลเมตร หรือ 301,500 ไร่ ประกอบไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย พาดผ่านจากประเทศเนปาล ภูฐาน พม่า เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย


ดอยอินทนนท์ เดิมมีชื่อว่า "ดอยหลวงอ่างกา" ต่อมาได้ตั้งชื่อตามพระนามของพระเจ้าอินทวิชยนนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7


วิวจากพระมหาธาตุเจดีย์ธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุจดีย์นภพลภูมิสิริ บนยอดดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่


ผลผลิตทางการเกษตรของโครงการหลวงทุกชิ้นต้องได้รับการแพ็คเกจอย่างดีเพื่อเพิ่มมูลค่าและสะดวกในการขนส่งที่สำคัญทุกขั้นตอนการผลิตผ่านมาตรฐานของสินค้าทางการเกษตร ผู้บริโภคทุกคนมั่นใจได้ในคุณภาพของสินค้าจากโครงการหลวง


บ้านแม่กลางหลวง ตั้งอยู่ในหุบเขานาขั้นบันไดอันเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 3ตั้งอยู่ในหุบเขานาขั้นบันไดอันเป็นพื้นที่ ลุ่มแม่น้ำชั้น 3 บนดอยอินทนนท์ในเขตการปกครอง ของ หมู่ 17 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม มีชนเผ่าปกาเก่อญออาศัย อันหมายถึง ผู้มีความสมถะและเรียบง่าย บริเวณลุ่มแม่น้ำแม่กลางประกอบด้วยชุมชนย่อย 4 แห่ง คือ ชุมชนบ้าน อ่างกาน้อย ชุมชนบ้านแม่กลางหลวง ชุมชนบ้านหนองหล่ม และชุนบ้านผาหมอน โดยมีจำนวน ครัวเรือนในแต่ละกลุ่มบ้านประมาณ 60 - 80 ครัวเรือน

วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เกี่ยวข้าวในวันอาหารโลก


วันอาหารโลก (World Food Day) 16 ตุลาคมปีนี้อยู่บ้านเกี่ยวข้าวไร่(กุบือ) อาหารหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตพี่น้องปกาเก่อญอจากรุ่นสู่รุ่น. ตรงกับคำขวัญวันอาหารโลกปีนี้ที่ว่า Family Farming : "Feeding the world, caring for the earth"


"รวงข้าว ขวัญข้าว จิตวิญญาณ"

ร่วมสืบสานประเพณีเลี้ยงผีนา


ช่วงปิดภาคเรียนที่ 1 ปีนี้มีโอกาสได้กลับบ้านไปร่วมพิธีเลี้ยงผีนา หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูในภาคเรียนแรก จึงถือโอกาสนี้ชวนเพื่อน 2 คนไปเที่ยวที่บ้านเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ซึ่งเดิมทีคุณเพื่อนทั้งสองคนนี้อยากไปเที่ยวอยู่แล้วด้วย นั่นคือ เพื่อนโฟม สยมภู ปัญญาเหมือง จากจังหวัดแพร่ และเพื่อนโญ ภิญโญ ขียา จากจังหวัดน่าน  งานนี้เชิญร่วมเรียนรู้พิธีกรรมที่ทำหน้าที่เป็นจิตวิญญาณของพวกเราชาวปกาเก่อญอ คือการเลี้ยงผีนา ในช่วงต้นข้าวออกรวง ทั้งนี้เป็นการเลี้ยงผีเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี และช่วยปกปักรักษาต้นข้าวให้ออกรวงสวยงามจนถึงฤดูเก็บเกี่ยว


อาหารประจำพิธีกรรมนั่นก็คือ ข้าวเบอะ เป็นการต้มข้าวผสมกับเนื้อหมู หรือเนื้อไก่จนเละ เมื่อแกงสุกแล้วจะมีลักษณะเหนียวๆคล้ายข้าวต้ม ซึ่งจะมีรสชาติเหมือนแกงทั่วๆไป วิถีชีวิตอันเรียบง่ายสะท้อนออกมาผ่านเมนูอาหาร ที่เป็นการประกอบอาหารแบบเรียบง่าย นำวัตถุดิบหลายๆอย่างผสมรวมกันนั่นเอง


ระยะทางทั้งหมด 70 กว่ากิโลเมตรจากอำเภอเมืองแม่สะเรียง จนถึงบ้านซิวาเดอ จะยิงตรงเลยก็ดูเหนื่อยไปนิดหน่อย เลยพักเครื่องมอเตอร์ไซค์และพักเครื่องคนขับระหว่างทาง และที่พลาดไม่ได้คือบันทึกประสบการณ์การเดินทางผ่านเลนส์กล้อง


ส่วนตัวผมแล้วขอยกนิ้วให้กับภาพนี้ครับ นอกจากจะให้อารมณ์เย็นๆแล้วยังสะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ณ สองริมฝั่งสาละวินด้วย ภาพนี้ถ่ายโดย ภิญโญ ขียา (โญ) เพื่อนผู้หลงใหลในการถ่ายภาพและบันทึกประสบการณ์ผ่านเลนส์ในทุกๆการเดินทาง


ถึงบ้านก็ค่ำพอดี คุณแม่ได้ตระเตรียมกับข้าวสำหรับการกลับมาของลูกชายเป็นที่เรียบร้อย หลังจากรับประทานอาหารค่ำเสร็จพวกเราก็ร่วมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้วยกัน และเรียนรู้วิธีคิด วิถีชีวิตของพี่น้องชาวปกาเก่อญอ ตลอดจนภาษาที่ใช้ในการสื่อสารด้วย ดูเพื่อนโฟมจะสนใจเป็นพิเศษนะครับ อิอิอิ


หากจะเจาะลึกถึงวิถีการทำมาหากินในระบบไร่หมุนเวียน ต้องไปพลาดที่จะเยือนผืนไร่ ซึ่งเปรียบเสมือนหม้อข้าวหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตจากรุ่นสู่รุ่น ช่วงนี้เป็นช่วงเกี่ยวข้าวก็ต้องมาเรียนรู้กันสักหน่อยถึงวิธีการเกี่ยวข้าวไร่ ที่ใช้ใบข้าวมัดรวงข้าวไว้ แล้วนำไปตากให้แห้งก่อนที่จะถึงขั้นตอนการตีข้าว


ณ ริมฝั่งสาละวินแห่งนี้ ผมกลับมาเมื่อไหร่มักจะๆได้ภาพที่ตนเองประทับใจอยู่เสมอ  รูปตัวเองขอยกให้ภาพนี้เป็นภาพแรกละกันครับ ขอบคุณเพื่อนโญ สำหรับการกดชัตเตอร์ได้ในจังหวะที่ดูแสนจะเหมาะเจาะพอดี อิอิอิ


แวะซื้อเนื้อหมูระหว่างทางสัก 2 กิโลกรัม เพื่อนำไปประกอบอาหารที่บ้าน โดยการต้มใส่แตง ต้มใส่ผักยอดอ่อนๆทะ้งหลาย เป็นเมนูอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างมาก

วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ประมวลภาพฝึกสอนเทอม 1/2557

1 ภาคการศึกษาผ่านพ้นไปด้วยดี กับภารกิจการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ณ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่  วันนี้จึงรวบรวมรูปเก็บไว้สัก 1 อัลบั้ม เพราะภาพจะอธิบายประสบการณ์ได้ดีกว่าตัวหนังสือหลายเท่าตัวเลย การเป็นนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูหลายคนบอกว่าเป็นว่าที่คุณครู ในความเป็นจริงแล้วเราเป็นครูตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในโรงเรียนแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีวุฒิการศึกษารับรองแค่นั้นเอง การเลือกโรงเรียนเพื่อฝึกสอนของแต่ละคนก็มีเหตุผลแตกต่างกันไป บ้างก็เลือกเพราะอยู่ใกล้ที่พัก บ้างก็เลือกเพราะว่ารุ่นพี่แนะนำ บ้างก็เลือกเพราะอาจารย์แนะนำ หรือมีรุ่นพี่สอนอยู่ในโรงเรียน แม้กระทั่งเลือกเพราะชื่อเสียงของโรงเรียนก็มี  แต่นั่นคงไม่สำคัญเท่ากับเราได้เรียนรู้อะไรในการฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพครู 1 ปีการศึกษา ที่จะต้องเรียนรู้งานต่างๆ สำหรับตัวผมแล้วคิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด เพราะเราก็อยู่กับโรงเรียนมาตั้งแต่เราเข้าเรียนอนุบาลจนถึง ม.6 คงไม่มีอะไรมากที่จะต้องปรับตัว แต่สิ่งที่ท้าทายสำหรับเรานั่นก็คือ เทคนิคและวิธีการสอนที่ตอบโจทย์การเรียนรู้ของนักเรียนมากกว่า เหตุผลส่วนตัวที่ผมเลือกโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ เป็นสถานที่ฝึกประสบการณ์วิาชีพครู ขอบอกเล่าผ่านรูปภาพเหล่านี้แล้วกันนะครับ


ทุกๆวันเสาร์แรกของเดือนจะมีการฉายภาพยนต์ให้นักเรียนดู เพื่อเป็นการผ่อนคลายจากการเรียน โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เป็นโรงเรียนประจำ ให้โอกาสนักเรียนที่บ้านอยู่ห่างไกลจากสถานศึกษา เข้ามาเรียนและดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้ทั้ง อาหารการกิน อุปกรณ์การเรียน ที่พัก และอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชนเผ่า รวมทั้งหมดประมาณ 7 เผ่าที่เรียนในโรงเรียนแห่งนี้


ปุ้ย ภูริทัศน์ สุกนวล กับนู๋นาง ชุลี ขันตีต่อ เพื่อนร่วมสาขาวิชาทั้งสองที่ตัดสินใจเลือกฝึกประสบการณ์ในโรงเรียนแห่งนี้ด้วยกัน ในยามเย็นหลังจากเสร็จภารกิจสอนก็มักจะชวนกันรับประทานอาหารพื้นๆ ง่าย แถวๆริมถนน โดยเฉพาะส้มตำ แซ่บเวอร์.....


การฝึกประสบการณ์ในเทมอแรกได้สอนวิชาสังคมศึกษา และวิชาประวัติศาสตร์ ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งมีทั้งหมด 3 ห้อง ย้ำนักเรียนอยู่เสมอให้เข้าใจแก่นของการเรียนสังคมศึกษา ไม่ใช่การเรียนเพื่อท่องจำเอาข้อมูล ไม่ใช่การเรียนเพื่อไปสอบ แต่เป็นการเรียนเพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมที่เราอาศัยอยู่


กิจกรรมเสริมช่วยดูแลงานลูกเสือ-เนตรนารี โดยรับผิดชอบสอนในหัวข้อ พลเมืองดีตามระบอบประชาธิปไตย มีเรื่องให้เล่าเยอะพอสมควร เพราะว่าเป็นวิชาของการติดตามข่าวสารบ้านเมือง และต้องวิเคราะห์ทิศทางการเปลี่ยนแปลงของสังคมในทุกๆด้าน


พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่สวนสัตว์ไนท์ ซาฟารี จังหวัดเชียงใหม่ ตามนโยบายคืนความสุขให้กับประชาชนของ คสช. 


จัดทำโครงการจิตอาสา โดยการตีเส้นจราจรในโรงเรียน ทำสัญลักษณ์จราจร เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้เครื่องหมายจราจรที่ใกล้ตัว รู้จักเคารพกฎจราจร เคารพกฏหมาย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างพลเมือง ตามวิถีประชาธิปไตย


ดูแลและช่วยงานเรื่องเอกสารการประเมินผู้เรียนตลอดปีการศึกษาของฝ่ายกิจการนักเรียนของโรงเรียน


วันศุกร์กับโต๊ะทำงานในห้องพักครู


กิจกรรมหน้าเสารธง


ทีมงานเตรียมสื่อเพื่อเอาไปจัดบอร์ดให้ความรู้แก่นักเรียน


เป็นกระบวนกรในการดำเนินกิจกรรมสันทนาการในค่ายเสริมสร้างประขาธิปไตย ให้กับโรงเรียนในสังกัดสำนักการศึกษาพิเศษ (ศึกษาสงเคราะห์ ราชประชานุเคราะห์)


เป็นกระบวนกรในการดำเนินกิจกรรมสันทนาการในค่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ให้กับโรงเรียนในสังกัดสำนักการศึกษาพิเศษ (ศึกษาสงเคราะห์ ราชประชานุเคราะห์)


เสร็จกิจกรรมค่ายอบรมยุวชนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม คุณครูรุ่นพี่พาไปสูดอากาศบริสุทธิ์
ครูจิ๋ม นศ.ครูแหวว นศ.ครูเอ นศ.ครูนพ นศ.ครูมิต ครูสมศักดิ์  ครูอู๋
โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่


ช่วงเสาร์ อาทิตย์ก็ต้องใช้เวลากับการอบรมเพิ่มขีดความสามารถของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ซึ่งทางคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นผู้จัดให้กับนักศึกษาฝึกสอน


ขอบขอบคุณอาจารย์เชษฐภูมิ วรรณไพศาล อาจารย์นิเทศ ที่คอยให้กำลังใจและข้อเสนอแนะดีดีในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูในโรงเรียน


ทุกวันศุกร์นักเรียนจะแต่งกายด้วยชุดเผ่าของตนเอง เป็นอีกหนึ่งนโยบายของโรงเรียนที่มุ่งให้เด็กตระหนักในคุณค่าของวัฒนธรรมของตนเอง  และเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ไว้ เพราะสิ่งที่บ่งบอกความเป็นอัตลักษณ์ของพี่น้องชนเผ่าได้ดีที่สุดก็คือ เครื่องแต่งกายนั่นเอง


ร่วมงานประเพณีขึ้นดอย แต่สำหรับนักศึกษาปี 5 คงต้องเรียกว่าประเพณีลงดอย เพราะว่าทุกๆปีนักศึกาาที่ศึกาาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายจะมีลงดอยพร้อมกัน เพื่อเป็นสัญญาณบอกว่าจะสำเร็จการศึกษาแล้ว


เป็นกรรมการอำนวยการสอบของนักเรียนโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ เน้นย้ำว่าเป็นการอำนวยการสอบ ไม่ใช่การคุมสอบ เพราะนักเรียนไม่ใช่นักโทษ ไม่จำเป็นต้องคุม เพียงแค่อำนวยการสอบให้ผ่านพ้นไปด้วยดีแค่นั้นแหละภารกิจของครู


เป็นครูประจำเรือนนอนของนักเรียน ในช่วงปิดเทอมก็ต้องรับผิดชอบให้ผู้ปกครองมาเซ็นรับนักเรียนไป เพื่อให้เป็นระเบียบในการเข้าออกของนักเรียน


กระบวนกรในงานสันนาการ


เพื่อน เอ นศ.ฝึกสอนวิชาเอกแนะแนว จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏ ผู้มากด้วยความสามารถและความมั่นใจในการเต้น ร่วมนำกิจกรรมในค่ายอบรมยุวชนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ณ ห้วยฮ่องไคร้  เชียงใหม่



ก่อนแยกย้ายกลับโรงเรียน ขอเก็บภาพบรรยากาศแห่งความประทับใจร่วมกันสักเล็กน้อย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะได้นำองค์ความรู้และประสบการณ์ไปพัฒนาต่อ และเป็นฐานสำคัญที่จะช่วยให้แต่ละคนค้นพบอาชีพของตนเอง เช่น เพาะเห็ด โคนม เลี้ยงปลา ทำปุ๋ย เป็นต้น


เป็นที่ปรึกษาโครงงานคุณธรรม สานฝันแันรัก จากพี่สู่น้อง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนศึกาาสงเคราะห์เชียงใหม่ ในการแบ่งปันความดี สร้างเยาวชนให้เป็นคนรู้จัดการให้ผู้อื่น สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ผ่านโครงงงานคุณธรรมฯ


จัดทำโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน เพราะการอ่านเป็นประตูสำคัญที่จะทำให้เราออกไปสู่โลกกว้าง ยิ่งอ่านมากยิ่งรู้มากเป็นธรรมดา ฉะนั้นวัยนักเรียนจึงต้องสร้างนิสัยของการรักการอ่านให้ได้ เพื่อให้มีมุมมองที่กว้างขึ้น และเรียนรู้ ก้าวทันสังคมที่เปลี่ยนแปลงในทุกๆวินาที


ร่วมกันจัดบอร์ดประชาสัมพันธ์การศึกษาต่อของนักเรียน ม.3 และม.6 งานแนะแนวจึงเป็นงานของครูทุกคนที่จะต้องให้คำแนะนำกับนักเรียนได้ เพราะหน้าที่ครูไม่ใช่แค่การสอนเนื้อหาให้นักเรียนรู้และเข้าใจ แต่จะต้องกระตุ้นให้นักเรียนค้นพบความสามารถของตัวเอง เพื่อเป็นฐานสำคัญในการประกอยอาชีพในอนาคตด้วย


จากประสบการณ์การฝึกสอนในภาคการเรียนที่ 1/2557 ขอรวมรวมไว้ในแฟ้มผลงานเล่มนี้ พักหายใจในช่วงปิดเทอมสัก 3 อาทิตย์ แล้วมาเริ่มปฏิบัติงานต่อในภาคเรียนที่ 2 ไว้เจอกันครับ.........นพ

ประสบการณ์ในแดนมังกร

ท่องยุโรปไปกับยุวชนประชาธิปไตย

ท่องยุโรปไปกับยุวชนประชาธิปไตย
ประสบการณ์ในการทัวร์ยุโรปมา ช่างเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นจริงๆ และผมก็มีรูปภาพสวยๆมาฝากกันมากมายเลยทีเดียวครับ ก็ขอเชิญเยี่ยมชมได้เลยครับ ไปกันเล้ยยยๆ!!!!!