
ช่วงปิดภาคเรียนหลังจากจบการศึกษาชั้นปีที่ 4 เตรียมตัวฝึกประสบการณ์วิชาชีพในปี 5 ระหว่างพักช่วงปิดเทอมได้กลับบ้านไปช่วยคุณพ่อและคุณแม่ทำไร่ สำหรับบรรยากาศร้อนๆในช่วงเดือนเมษายน เป็นช่วงของการเผ่าไร่ เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการปลูกข้าว ในวันนี้ได้เก็บภาพบรรยากาศตอนกลางวันที่ผืนดินกำลังโดนแดดแผดเผา พร้อมด้วยไอดินที่รอการเทลงมาของสายฝนแห่งฤดูกาล วิถีชีวิตการทำมาหากินที่ถูกส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น หนึ่งในลักษณะการทำเกษตรกรรมที่เรียกว่า ไร่หมุนเวียน ที่แต่ละคนจะถางไร่เพื่อปลูกข้าว โดยที่หมุนไปตามฤดูกาล และแต่ละคนจะมีพื้นที่เป็นของตัวเอง 6-7 ปี จะกลับมาบรรจบหนึ่งครั้ง เมื่อสายฝนโปรยปรายลงมาก็จะเข้าสู่ฤดูกาลแห่งการปลูกข้าว คิดถึงบรรยากาศที่หนุ่มสาวชวนกันไปปลูกข้าวที่ไร่ โดยมีฝ่ายชายเป็นฝ่ายจ้ำหลุมข้าว ส่วนฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายหว่านเมล็ดข้าว ภาพบรรยากาศแห่งความสนุกสนานของการพูดคุย หยอกล้อ ที่คลุ้มไปด้วยเสียงหัวเราะ ยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำเสมอ วิถีชีวิตของพี่น้องชาวปกาเก่อญอที่ทรงคุณค่าเหล่านี้กลับค่อยๆถูกกระแสทุนนิยมกลืนกินไปทีละนิด จนมาถึงวันที่ก็หายไปไม่น้อยเลยทีเดียว หวังแต่เพียงว่าคนรุ่นใหม่ ผู้ซึ่งเป็นลูกหลานของผืนป่าอันทรงคุณค่าจะได้ตระหนักใรความพอเพียง ความสมถะที่เป็นอยู่ตั้งแต่เดิม อนุรักษ์ไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงาม วัฒนธรรมแห่งการเกื้อกูลกันในวันวาน

น้องชายคนเล็ก น้องจอห์นี่ อีกคนที่กำลังก้าวออกจากบ้านเพื่อแสวงหาความรู้ตามเส้นทางของระบบการศึกษาที่ถูกออกแบบด้วยรัฐ ตามที่พี่ชายได้เดินทางมาแล้ว โอกาสนี้ได้กลับไปทบทวนภาพบรรยากาศเก่าๆร่วมกัน เพื่อเตือนตัวเองว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในยุคของพวกเรานี้เป็นการปะทะกันของวัฒนธรรมเมือง กับวัฒนธรรมบ้านเรา ไม่สำคัญว่าเราจะต้านกระแสวัฒนธรรมเมืองได้มากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งที่สำคัญคือ เราจะดำรงวัฒนธรรมของตนไปพร้อมๆกับการรับเอาวัฒนธรรมเมืองมาใช้อย่าวลงตัว และสมดุลมากกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น