วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เริ่มต้นที่ความเชื่อ


หากจะกล่าวถึงสิ่งที่มีพลังในการขับเคลื่อนโลกใบนี้ สิ่งแรกที่เราจิตนาการถึงคงหนีไม่พ้นความทันสมัยทางด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี สิ่งก่อสร้าง เครื่องไม้เครื่องมือประเภทต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน เทียบได้ว่าเป็นสิ่งที่ผลิกโฉมหน้าของโลกใบนี้เลยก็ว่าได้ ทุกสิ่งอย่างที่กล่าวถึงนี้ล้วนแต่เกิดจากความคิดของมนุษย์ทั้งสิ้น และทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็นการคิดนอกกรอบ คิดแบบใหม่ จึงได้สร้างสรรค์นวัติกรรมใหม่ๆออกมา แน่นอนว่าคงมีน้อยคนที่ลงมือทำอะไรแล้วสำเร็จได้ทันที ส่วนใหญ่แล้วมีการลองผิดลองถูก ล้มมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง คำถามต่อมาคือ อะไรเป็นตัวคงความตั้งใจของพวกเขาไว้ละ ??   ทำไมเขาถึงไม่ล้มเลิกความตั้งใจ คำตอบง่ายๆคือ ความเชื่อ เพราะว่าเขายังเชื่อว่าเขาทำได้ ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้ง ไม่ว่าจะล้มเหลวกี่ครั้งก็จะไม่ล้มเลิกในความตั้งใจ ด้วยพลังแห่งความเชื่อนี้แหละที่ทำให้โลกใบนี้เปลี่ยนแปลงไป ความเชื่อเท่านั้นที่จะพาคุณไปสู่สิ่งใหม่ๆ การใช้ชีวิตที่ปราศจากความเชื่อคงไม่ต่างอะไรกับตอไม้ที่รอวันผุพัง เพราะการล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมดา แต่การล้มเลิกนี่สิ เป็นกำแพงที่คอยกั้นเราไปสู่ความสำเร็จ ฉะนั้นวันนี้เราลองถามตัวเองหรือยังว่า เราเชื่ออะไรบ้าง แล้วเราทำมันได้แล้วหรือยัง และเรายังเชื่อในอะไรอีกบ้าง?????

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เปิดกล่องชอร์ก ปีที่ 12


กลายเป็นงานการแลกเปลี่ยนทักษะทางวิชาการไปแล้ว สำหรับงานเปิดกล่องชอร์กของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำหรับปีนี้ได้เดินทางมาถึงปีที่ 12 แล้ว ที่ทางสโมสรนักศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ ได้ดำเนินโครงการนี้ ซึ่งแต่ละสาขาวิชาก็จะออกแบบกิจกรรมการแข่งขันทักษะทางวิชาการแล้วเปิดรับสมัครนักเรียนเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน มีการมอบเกียรติบัตรและโล่รางวัลในทักษะประเภทต่างๆ สำหรับปีนี้ในฐานะเป็นนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูก็ได้พานักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันด้วย การแข่งขันทักษะในด้านสังคมฯ มีหลายรายการ เช่น ตอบปัญหาสังคมศึกษา แฟนพันธุ์แท้ประวัติศาสตร์ แฟนพันธุ์แท้อาเซียน ได้พานักเรียนเข้ามาร่วมทุกรายการเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในด้านวิชาการ จากการแข่งขันมีรายการที่ได้รับรางวัลคือ การแข่งขันนำเสนอประเด็นโลกศึกษา (Global Education) : ซึ่งมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ร่วมนำเสนอ 3 คนคือ นางสาวสุรีย์ นางสาวฤทันรัตน์ และนางสาวป่ากู้ โดยนำเสนอในประเด็น การสอนศาสนาในระบบการศึกษาไทย นำไปสู่การสร้างสันติภาพจริงหรือ??  เป็นการนำเสนอแนวคิดในด้านการวิพากษ์แบบเรียน ที่เกิดจากการสังเกต และตั้งข้อสงสัย งานนี้ชนะใจกรรมการไปจึงได้รางวัลที่สองมาครอง.


มุมสวยๆในคณะศึกษาศาสตร์มีให้ถ่ายรูปเยอะเลย โดยเฉพาะมัมนี้ ที่มีโคมลอยอยู่เหนือศีรษะ และเหมือนแสงก็เป็นใจด้วยเลยจัดให้ลูกศิษย์ 1 ภาพแจ่มๆ ทีมนำเสนอประเด็นโลกศึกษา กับทีมตอบปัญหาสังคมศึกษา ประเสริฐ และอัครพล


สี่คนร่วมกิจกรรมตอบปัญหาสังคมศึกษาประกอบด้วย ประเสริฐ อัครพล เพ็ญนภาและอุษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ 


ผู้ร่วมแข่งขันแฟนพันธุ์แท้ประวัติศาสตร์ไทยประกอบด้วย รุ้งตะวัน อารีรัตน์ การเกด และจุฬารัตน์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่


ช่วงเที่ยงพักเบรคระหว่างรอการประกาศผลการแข่งขัน ณ สแตนด์แดง คณะศึกษาศาสตร์ อัฒจรรย์ที่ใช้สำหรับการโชว์เชียร์ การซ้อมกิจกรรมเชียร์ 


ก่อนเดินทางกลับโรงเรียนร่วมถ่ายรูปด้วยกันสักภาพ ขอบคุณพี่หน่อย สุวรรณา เมืองแก้ว ที่เป็นช่างภาพให้ สิ่งที่พวกเราได้มากกว่ารางวัลนั่นก็คือ ประสบการณ์การเรียนรู้ ได้มาเปิดหูเปิดตา เรียนรู้แลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆต่างโรงเรียน ผมจึงบอกกับลูกศิษย์ว่า ครูไม่ได้คัดเลือกพวกเราจากเกรด  ไม่ได้คัดเลือกว่าเก่งวิชาสังคม ไม่ได้คัดเลือกเพื่อมาสร้างชื่อเสียง แต่ครูดีใจที่พวกเธออาสามาด้วยตนเอง ด้วยความอยากรู้ อยากเห็น อยากร่วมกิจกรรม เพราะการเรียนรู้ที่ทรงพลังเอามากๆคือ การเรียนรู้ที่เกิดจากความอยากของผู้เรียนเอง ขอให้เก็บความทรงจำนี้ไว้ว่าวันหนึ่ง ครูนพ ได้บอกไว้อย่างนี้.ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ เราอย่าดูถูกความสามารถของตัวเอง อะไรที่เรายังไม่ได้ลงมือทำด้วยตนเอง อย่าบอกว่าเราทำไม่ได้. ขอให้นักเรียนเก็บความทรงจำวันนี้ไว้แล้วเปลี่ยนมันเป็นแรงขับภายในที่ช่วยกระตุ้นให้พวกเรากระหายที่จะเรียนรู้เพื่อยกระดับสติปัญญาของตนเอง และพร้อมที่จะแบ่งปันให้กับสังคมต่อไปในอนาคต

วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Impression at royal project.


มีโอกาสพาลูกศิษย์เข้าร่วมโครงการตามรอยพระบาทเพื่อเรียนรู้งานโครงการหลวง วันที่ 6-8 พ.ย.57 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ และศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างแกนนำนักเรียนในการนำความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการหลวงไปเผยแพร่ต่อในโรงเรียนและชุมชน งานนี้จัดโดยส่วนงานการศึกษาและสาธารณสุข มูลนิธิโครงการหลวง 


หนึ่งในกิจกรรมของการอบรมในวันแรกคือ ไปเยี่ยมชมอุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่แห่งนี้ได้เปิดให้เข้าเยี่ยมได้ตลอดปี รองรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดปี มีบริการที่พักและยานพาหนะในการเที่ยวชมสวนด้วย  ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.royalparkrajapruek.org/main/


สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ หนึ่งในโครงการหลวงที่เป็นแหล่งเรียนรู้การทำเกษตรประเภทต่างๆ ซึ่งมีการเพาะพันธุ์กล้าไม้หลายร้อบชนิด เพื่อให้เกษตรกรได้เรียนรู้ แล้วนำไปประกอบอาชีพ หนึ่งในพืชที่มีความสวยงามคือ กล้วยไม้ ณ สถานีนี้มีบริการที่พักและอาหารอย่างครบวงจร ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.royal-inthanon.com/


ภาพแรกกับการเดินทางขึ้นไปดอยอินทนนท์ ยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย มองลงมาด้านล่างแล้วเห็นเมฆ หมอกปกคลุมเมืองเชียงใหม่ ช่างเป็นภาพที่สวยงามนัก


บนยอดดอยอินทนนท์ เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง 2,565 เมตร มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียว นี่แหละความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้บนพื้นที่สูง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่ประมาณ 482.4 ตารางกิโลเมตร หรือ 301,500 ไร่ ประกอบไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย พาดผ่านจากประเทศเนปาล ภูฐาน พม่า เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย


ดอยอินทนนท์ เดิมมีชื่อว่า "ดอยหลวงอ่างกา" ต่อมาได้ตั้งชื่อตามพระนามของพระเจ้าอินทวิชยนนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7


วิวจากพระมหาธาตุเจดีย์ธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุจดีย์นภพลภูมิสิริ บนยอดดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่


ผลผลิตทางการเกษตรของโครงการหลวงทุกชิ้นต้องได้รับการแพ็คเกจอย่างดีเพื่อเพิ่มมูลค่าและสะดวกในการขนส่งที่สำคัญทุกขั้นตอนการผลิตผ่านมาตรฐานของสินค้าทางการเกษตร ผู้บริโภคทุกคนมั่นใจได้ในคุณภาพของสินค้าจากโครงการหลวง


บ้านแม่กลางหลวง ตั้งอยู่ในหุบเขานาขั้นบันไดอันเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 3ตั้งอยู่ในหุบเขานาขั้นบันไดอันเป็นพื้นที่ ลุ่มแม่น้ำชั้น 3 บนดอยอินทนนท์ในเขตการปกครอง ของ หมู่ 17 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม มีชนเผ่าปกาเก่อญออาศัย อันหมายถึง ผู้มีความสมถะและเรียบง่าย บริเวณลุ่มแม่น้ำแม่กลางประกอบด้วยชุมชนย่อย 4 แห่ง คือ ชุมชนบ้าน อ่างกาน้อย ชุมชนบ้านแม่กลางหลวง ชุมชนบ้านหนองหล่ม และชุนบ้านผาหมอน โดยมีจำนวน ครัวเรือนในแต่ละกลุ่มบ้านประมาณ 60 - 80 ครัวเรือน

ประสบการณ์ในแดนมังกร

ท่องยุโรปไปกับยุวชนประชาธิปไตย

ท่องยุโรปไปกับยุวชนประชาธิปไตย
ประสบการณ์ในการทัวร์ยุโรปมา ช่างเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นจริงๆ และผมก็มีรูปภาพสวยๆมาฝากกันมากมายเลยทีเดียวครับ ก็ขอเชิญเยี่ยมชมได้เลยครับ ไปกันเล้ยยยๆ!!!!!